วันนี้ทาง K2 ได้มีโอกาสได้พูดคุยกับฝ่ายบริหารของมหาวิทยาลัยขอนแก่นเกี่ยวกับ digital transformation ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น โดย ท่านรองอธิการบดีฝ่ายดิจิตอล ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งท่านจะมาช่วยอธิบายแนวคิดการเปลี่ยนมหาวิทยาลัยเป็นดิจิตัลของมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้นมีที่มาอย่างไรและทำได้อย่างไร
K2 : ย้อนไปนิดนึง ไม่ค่อยได้ยินคำนี้เท่าไร ที่นี่น่าจะเป็นที่แรกที่ใช้คำว่าฝ่ายดิจิตัล ภารกิจเบื้องหลังจริงๆแล้วสำหรับฝ่ายนี้คืออะไรครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : เรื่องสำคัญคือ การปรับเปลี่ยนองค์กรเป็นดิจิตัล องค์กรมีความจำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ ไม่จำเป็นต้องมียุทธศาสตร์ทางดิจิตัล แต่ควรใช้ดิจิตัลในทุกยุทธศาสตร์ มันเลยกลายเป็นว่า จึงควรมีผู้บริหารสักคน ที่คอยกำกับต้นทางยันปลายทางในการดูแลปรับเปลี่ยนทั้งกระบวนการภายในและภายนอก ในมหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้น เราไม่ได้มีเพียงเฉพาะนักศึกษา แต่เรามีความซับซ้อนมากกว่านั้น ไม่ว่าจะเป็น นักเรียน ศูนย์เลี้ยงเด็ก คนไข้ user จึงมีความหลากหลาย เปรียบได้เหมือนการดูแลเมือง จึงต้องดูแลให้ครอบคลุมทุกด้าน เป้าหมายคือการดูแลมหาวิทยาลัยให้น่าอยู่ น่าทำงาน น่าเรียนหนังสือ ปลอดภัย และมีศักยภาพที่จะบอกกับสังคมภายนอกว่าเป็นสังคมแห่งอนาคต ดังนั้นจึงจำเป็นที่จะต้องมี CDO (Cheif digital Officer) ทำหน้าที่เกี่ยวกับ business process จึงเป็นเบื้องหลังว่าทำไมทางมหาวิทยาลัยจึงตั้งฝ่ายนี้ขึ้นมาครับ
K2 : ดังนั้นอาจจะเป็น Trend ที่หน่วยงานอื่นน่าจะมีฝ่ายและตำแหน่งนี้เกิดขึ้นมาในอนาคตใช่ไหมครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : ถ้าในเอกชน ก็จะมีหลายบริษัทที่มี CDO เกิดขึ้นมาโดยเฉพาะบริษัทใหญ่ๆนั้น ก็เริ่มมีฝ่ายหรือแผนกนี้ขึ้นมาแล้วครับ
K2 : New normal หรือ Digitalization คำเหล่านี้กระทบกับมหาวิทยาลัยมากน้อยแค่ไหน ทางมหาวิทยาลัยขอนแก่นมีมุมมองกับเรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : ที่จริงเรื่องของ Digitalization เริ่มต้นมาแล้วตั้งแต่ 10 ปีก่อนในแผนก IT ต่อมาทางฝั่งผมและอธิการบดีได้พยายามขับเคลื่อน business หรือก็คือตัวมหาวิทยาลัย โดยเริ่มจัดการมหาวิทยาลัยด้วยดิจิตัล ดังเช่น เมื่อ 8 ปีที่แล้วเริ่มนำ Cloud Technology มาใช้ โดยตอนนั้นยังไม่มีคนรู้จัก Cloud และก็มีข้อกังวลว่าข้อมูลจะปลอดภัยไหม แต่ตอนนั้นเราก็ยืนยันว่าเราจะใช้ Cloud technology ในการเก็บข้อมูล ซึ่งต่อมาเป็น Cloud technology ได้เป็นพื้นฐานสำคัญในการพัฒนามหาวิทยาลัยในปัจจุบัน เพราะการพัฒนาระบบนั้นไม่ใช่ Silo แต่จำเป็นที่จำต้องที่ต้องทำเป็น Ecosystem มันจึงจะง่ายต่อการต่อยอดและการบริหารจัดการ ซึ่งทำให้วันนี้เราสามารถต่อยอดได้อีกเยอะครับ
K2 : ซึ่งแสดงว่ามหาวิทยาลัยขอนแก่นนั้น ในแง่ของโครงสร้างพื้นฐานมีความพร้อมมานาน คนเริ่ม adopt เอาดิจิตัลมาใช้ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ปีนี้เลยจะเน้นการพัฒนา application เพื่อสอดประสานข้อมูลและระบบที่มีเข้าด้วยกัน ถูกต้องไหมครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : ใช่ครับ ที่ผมพูดมา ไม่ใช่ว่าทางเราจะพร้อมทุกอย่าง ความพร้อมของเทคโนโลยีที่มีอยู่นั้นมีอยู่จริง แต่ความสำเร็จอาจจะไม่ได้มาทันที ด้วยเหตุผลคือต้องรอเวลา บางอย่างไม่น่าเชื่อว่ามาถึงด้วยโควิท ผมพยายามทำหลายเรื่องมากให้ประสบความสำเร็จ แต่ไม่สามารถไปในวงกว้าง แต่ด้วยโควิทเพียงไม่ถึงเดือน เราสามารถ implement ได้ทันที ไม่ว่าจะเป็น digital ID, paperless หรือ ผลักดัน digital signature ให้เกิดขึ้น กลายเป็นสิ่งที่ทุกคนเรียกร้อง ดังนั้นความพร้อมด้านเทคโนโลยี ผมคิดว่าองค์กรต้องมีความพร้อมเสมอ และหาจังหวะและเวลาที่วิ่งเข้าไปใส่ จังหวะของโควิทก็ช่วยเราไว้เยอะ เป็นตัวเร่งของดิจิตัลจริงๆ โดยเฉพาะในด้าน peopleware อย่างมหาศาลมากครับ
K2 : ขออนุญาตสอบถาม การทำ digital process ที่เลือก K2 เข้ามานั้น K2 เข้ามาได้อย่างไรครับ ขอแชร์ให้ทางเราฟังนิดนึงครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : เรามี pain point อยู่มากในเรื่องของจัดการ เราคิดอะไรได้เยอะแยะเลยแต่ว่ามีประเด็นเรื่อง deploy นั้นนานมาก เช่น เราจะทำ digital workflow บางอย่าง เราก็ต้องไปพัฒนา app บางทีไม่ใช่เรื่องยาก แต่ใช้เวลาเป็นปีในการพัฒนา เลยพยายามคิดว่ามีอันไหนไหมที่จะมาช่วย อันไหนบ้างที่จะทำให้ deploy ได้เร็ว สามารถวางทุกอย่างได้อยู่ใน ecosystem เดียว สามารถใช้ข้อมูลที่เป็น core บางอย่างร่วมกันได้ จากนั้นก็พยายามศึกษาครับ ศึกษาอยู่หลาย product แต่ที่ถูกใจ บอกได้เลยว่าคือ K2 เพราะ
- ง่ายทั้งคนใช้และคนดูแล
- ความง่ายในการ reconfig workflow ของเราเมื่อมีการปรับกระบวนการทำงาน
ซึ่งการปรับหรือแก้ไขนั้นเกิดได้บ่อยมาก เครื่องมือที่สามารถปรับได้ง่ายและไวจึงมีความสำคัญ พอมาเทียบกับแล้ว K2 จึงตอบโจทย์มากที่สุด
K2 : แล้วสำหรับผู้ใช้ เขาคาดหวัง process เยอะแค่ไหนครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : จริงๆ ทางมหาวิทยาลัยของแก่นมีการใช้ OKRs ซึ่ง 1 ใน OKRs ก็มีเรื่องของ digital workflow ซึ่งทุกหน่วยงานต้องนำไปใช้ แต่ OKRs นี้ ไม่ได้หมายความว่าทุกอย่างจะต้องอยู่บน K2 แต่เป็นการสร้าง mindset พื้นฐานว่าให้คิดและแก้ปัญหาในเชิง digital ตั้งแต่ต้น ทุกคนมีความตื่นเต้นและเห็นว่ามันถึงเวลาแล้วจริงๆ ทุกหน่วยงานใช้ OKRs นี้ในการวางยุทธศาสตร์ภายในครับ
K2 : แสดงว่าหลังจากจากนี้ก็จะมีคนสนใจและมาใช้ application มากขึ้น ทางมหาวิทยาลัยมี roadmap เรื่องนี้อย่างไรบ้างครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : Roadmap อันดับแรกคือ การ deploy เพื่อสร้างความคุ้นเคย เราเห็นความสำคัญของระบบบางอย่างใน process โดยพยายามเอาระบบที่มีความซับซ้อนมาวางบน K2 ลองดูว่าเป็นอย่างไร ปรากฎว่าก็ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก ดังนั้นต่อมา เราจึงต้องพัฒนาคนของเราให้มีความสามารถในการสร้าง workflow บน K2 เองได้ด้วยตนเอง นี่คือ phase ถัดไป แต่ถ้าอันไหนที่ซับซ้อนมากก็ยังคงต้องอาศันผู้เชี่ยวชาญมาช่วยเหลือ แต่งานบางอย่างที่เล็กและไม่ซับซ้อนก็ควรจะทำได้เอง เนื่องจากบุคลากรเรามีไม่เยอะมากขึ้นขนาดนั้น
K2 : การที่จะมี non-degree มาช่วยเรื่อง application K2 นี่พอจะมีความเป็นไปได้ไหมครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : ผมอยากจะชวน K2 เลยด้วยซ้ำนะครับ เรามาทำ non-degree ในลักษณะ partner ระหว่างมหาวิทยาลัยขอนแก่นกับ K2 โดยเราจะเทียบหน่วยกิตกับบางสาขาบางวิชา หรือเป็นรายวิชาเลือกเสรี ถ้ามาทำด้วยกัน ผมเชื่อว่าเราจะได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็น ทาง K2 ก็ได้พัฒนาคนที่เข้าสู่ระบบมากขึ้น มีคนใช้ application มากขึ้น มีคนเข้าใจ process และการทำงานมากขึ้น
K2 : ในการส่วนตัวผมค่อนข้างตื่นเต้นกับเรื่องนี้เหมือนกันครับ มองว่าเป็นเรื่องดีสำหรับนักศึกษา คือจบไปแล้วก็สามารถนำความรู้ไปใช้งานได้เลย ก็ดีใจที่ท่านรองสนับสนุนเรื่องนี้ครับ และเชื่อว่าทางตัวบริษัทเองก็ยินดีเป็นอย่างยิ่งเช่นกันครับ
ผศ.ดร. เด่นพงษ์ สุดภักดี : ผมขอเพิ่มเติมนิดนึง จริงๆแล้วคนที่ใช้ K2 คือ เดี๋ยวจะเข้าใจผิดว่าจะเป็นต้องจบ IT แต่จริงๆแล้ว K2 คือ digital process automation ถ้าให้ผมประเมินจริงๆ IT จริงๆแค่ 20% แต่ที่เหลือเป็นเรื่องของกระบวนการในการปรับปรุงงาน และสามารถคิดได้ว่า application ที่มีนั้นจะปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้อย่างไรมากกว่า ดังนั้นไม่จำเป็น IT ก็สามารถทำได้
ทาง K2 ขอขอบพระคุณและดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อน Digital transformation ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น หากสนใจฟังบทความเต็มๆ สามารถรับชมรับฟังได้จากวีดีโอด้านล่างได้ครับ
หรือหากต้องการติดต่อสอบถามผลิตภัณฑ์สามารถกรอกฟอร์มด้านล่างได้เลย ทีมงานจะติดต่อกลับไปอย่างเร็วที่สุดครับ