Microsoft ยักษ์ใหญ่ด้านไอทีที่มีหน่วยธุรกิจมากมายเป็นฟันเฟืองช่วยกันสร้างรายได้ให้กับบริษัท ซึ่งหนึ่งในฟันเฟืองชิ้นสำคัญนั้นก็คือแผนก Digital Store ที่รับผิดชอบระบบ E-Commerce ทั้งหมดตั้งแต่หน้าร้านซื้อขายเกมบน Xbox Games Store ไปจนถึงหน้าเว็บ Microsoft.com ที่มีวางจำหน่ายทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ซึ่งมีจำนวนกว่า 450 ช่องทางทั่วโลก ใน 240 ตลาดการจัดจำหน่าย แต่ถึงแม้ว่าพวกเขาจะได้ชื่อว่าเป็นบริษัทไอที แต่ระบบจัดการภายในของพวกเขาก่อนที่จะมาปรึกษา K2 กลับให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างน่าเหลือเชื่อ ในบทความนี้เราจึงจะมาวิเคราะห์จากบทสัมภาษณ์ทีมงาน Microsoft กัน ว่าพวกเขาได้รับประสบการณ์อย่างไรบ้างในการนำ K2 เข้าไปช่วยปรับการทำงาน
![Microsoft Digital Store](https://k2appstore.com/wp-content/uploads/2020/05/microsoft-homepage-1024x725.jpg)
Jennifer Woolery เจ้าหน้าที่จัดการโปรแกรมแผนก Digital Store ของ Microsoft ได้เปิดเผยให้ฟังว่าในช่วงก่อนหน้านี้ เธอต้องทำงานกับไฟล์ Excel ที่เก็บข้อมูลการซื้อขายและสต๊อกสินค้ากว่า 200 ไฟล์ด้วยกัน ซึ่งที่แย่ยิ่งกว่า คือไฟล์เหล่านั้นจะถูกส่งหากันผ่านอีเมล ทำให้มันกระจัดกระจายยิ่งขึ้นกว่าเดิม และสร้างความเข้าใจผิดให้เกิดขึ้นมากมาย จนทำให้กระบวนการทำงานของพวกเธอดูยุ่งเหยิง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาที่ทางบริษัทอัดโปรโมชั่นออนไลน์ในช่วงเทศกาล ทำเอาจินตนาการกันไม่ถูก ว่าจะช่องทางการจัดจำหน่ายที่มีจำนวนมาขนาดนั้นได้อย่างไร
ความท้าทายขอทาง K2 ในการแก้ไขปัญหาของ Microsoft
- ระบบที่ออกแบบจะต้องเชื่อมถึงกันเป็นแผ่นเดียว
- เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการงานภายใน
- สร้างขึ้นบนโครงสร้างออนไลน์ เพื่อให้เข้าถึงได้จากทุกที่ รวมทั้งต้องทำงานร่วมกันกับแพล็ตฟอร์มของ Microsoft ได้เป็นอย่างดี
- ลดข้อผิดพลาดที่เกิดจากมนุษย์ และความสับสนในการสื่อสารที่แตกต่างกัน
โดยหลังจากที่ K2 เข้าไปช่วยปรับระบบให้เป็น Automate ทั้งหมด ไฟล์ Excel กว่า 200 ก็ถูกทดแทนด้วยฟอร์มเพียงไม่กี่ฟอร์มที่ง่ายต่อการเข้าใจ และสามารถติดตามผลการทำงานได้ทุกที่ตลอดเวลา ช่วยให้พนักงานสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ เพราะเมื่อปัญหาจุกจิกจากการตามงาน หรือการสื่อสารที่ผิดพลาดหายไป พวกเขาก็จะมีเวลาสำหรับความคิดสร้างสรรค์เพิ่มมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานได้มากจากเดิมถึง 30% ยืนยันได้จากปากของ Douglas Lepar ผู้อำนวยการ Site Ops ฝ่าย Process & Program
![Microsoft Digital Store](https://k2appstore.com/wp-content/uploads/2020/05/douglas-lepar-microsoft-1024x540.jpg)
Douglas กล่าวว่าปัญหาก่อนหน้านี้ของแผนก Digital Store อย่างแรกเลย คือพวกเขาต้องดูแลระบบหลังบ้านซึ่งมีขั้นตอนซับซ้อน ให้รองรับช่องทางการจัดหน่ายกว่า 450 ช่องทางทั่วโลก ซึ่งส่วนที่เขารับผิดชอบและมีความโกลาหลที่สุด คือส่วนงานที่เกี่ยวข้องกับโปรโมชั่น เพราะติดตามสถานะของส่วนงานที่เกี่ยวข้องได้ยาก เนื่องจากพวกเขาต้องทำงานเป็นคนกลางรองรับข้อมูลจากหลากหลายแผนก ไม่ว่าจะเป็น การตลาด, จัดซื้อ ไปจนหน้าร้านจัดจำหน่าย ซึ่งการเป็นคนกลางรับข้อมูลจากทุกสารทิศ จะทำให้เกิดข้อผิดพลาดได้ง่าย รวมถึงขาดความต่อเนื่องชัดเจน โดยหลังจากที่ได้ทีมงาน K2 เข้ามาช่วย ผลลัพธ์ที่ออกมานับว่าน่าพอใจ
“Microsoft มีผู้เข้าชมหน้าร้านออนไลน์กว่าหนึ่งพันล้านคนต่อวัน จากทุกแพล็ตฟอร์ม ฉะนั้นข้อมูลสินค้าหรือโปรโมชั่น ที่โชว์อยู่บนเว็บไซต์จะต้องถูกต้องแม่นยำ ไร้ข้อผิดลาด”
ผลลัพธ์ที่ได้ หลังจากได้รับคำปรึกษา และปรับขั้นตอนต่าง ๆ ให้ Automate มากขึ้น
- เพิ่มประสิทธิภาพในขั้นตอน pre-production ให้สูงขึ้นจาก 66% เป็น 96%
- เปลี่ยนรูปแบบการเก็บข้อมูลจากไฟล์ Excel ธรรมดา ที่มีจำนวนกว่า 200 ไฟล์ ให้เป็นแอปพลิเคชั่นเพียงชิ้นเดียว
- ช่วยประหยัดเวลาแผนกจัดซื้อที่ต้องทำงานร่วมกันไปถึง 5 ชั่วโมงต่อสัปดาห์
- ขั้นตอนต่าง ๆ ในการจัดทำโปรโมชั่นมีความชัดเจนมากขึ้น
- ทีมงาน Microsoft ทั่วโลก ต่างตอบรับให้กับ solution และนำไปใช้งานครบทุกภูมิภาคทั่วโลก
อีกหนึ่งจุดสำคัญที่ถูกใจทีมของ Microsoft คือการที่โซลูชั่นของ K2 สามารถนำไปต่อยอด และขยับขยายการทำงานได้ทันที โดยที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งทีมงาน K2 มาทำให้ทั้งหมด ด้วยคุณสมบัติในการสร้าง workflow แบบ low-code ทำให้พวกเขาไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวกับการเขียนโค้ด เพราะคนที่จะมาใช้งานออกแบบหรือแก้ไข workflow ในทีมของ Douglas ล้วนแล้วแต่เป็นกลุ่มบุคคลที่ไม่ได้มีทักษะโดยตรงในด้านนี้ บางคนก็เป็นทีมขาย บางคนเป็นทีมดูแลลูกค้า การที่พวกเขาเหล่านั้นสามารถจัดการกับ workflow ได้ทุกเมื่อ ทำให้การทำงานลื่นไหลไม่ติดเป็นคอขวดอยู่ที่ใดที่หนึ่ง
![Microsoft Digital Store](https://k2appstore.com/wp-content/uploads/2020/05/k2-microsoft-users.jpg)
สิ่งที่ทีม Microsoft ได้รับ ระหว่างการทำงานร่วมกับทีมงาน K2
เราได้ทราบกันไปแล้วว่า K2 มีบทบาทในการช่วยเหลือทีมงาน Digital Store ได้อย่างไรบ้าง ทว่าระหว่างการปฏิบัติงาน ก็น่าจะมีข้อคิดหรือเทคนิคเล็กน้อยที่เกิดขึ้นระหว่างการทำงานร่วมกัน ซึ่ง Douglas ได้อธิบายไว้ดังต่อไปนี้ครับ
- การเปลี่ยนแปลง และปรับปรุงระบบการทำงานเดิม ควรมีการแบ่งออกเป็นเฟสย่อย – อย่างที่รู้กันดีว่าระบบ Digital Store ของทาง Microsoft ไม่ได้มีแค่เพียงเว็บไซต์ Microsoft.com เพียงอย่างเดียว แต่ยังมี Xbox Games Store ผนวกรวมเข้ามาด้วย นั่นทำให้เราไม่สามารถหักดิบจากไฟล์ Excel มาเป็นแอปฯ จาก K2 ได้ในทันที ฉะนั้นจึงต้องมีการแบ่งเฟสย่อยออกมา เพื่อให้มันค่อยเป็นค่อยไป และสามารถปรับแก้ได้ทัน ถ้ามีข้อผิดพลาดเกิดขึ้น
- ควรจัดแจงให้ผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เข้าร่วมขั้นตอนการพัฒนาด้วย – จะมีใครเข้าใจระบบงานได้ดีไปกว่าคนที่ต้องคลุกคลีอยู่กับมันอยู่ทุกวัน ฉะนั้นแล้วเราจึงควรที่จะชักชวนให้บุคคลเหล่านั้นมีส่วนร่วมในการพัฒนาในทุก ๆ ขั้นตอน เพื่อให้แอปพลิเคชั่นที่เราทำออกมาได้ตรงใจผู้ใช้หลักที่สุด
- เมื่อแอปฯ หรือโซลูชั่นของเราให้ผลที่ดี ควรมีการผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ในระดับที่กว้างขึ้น – เมื่อคุณมีของดี อย่าเก็บเอาไว้แค่แผนกเดียว ควรมีการโปรโมตออกไป และทำให้ทุกคนเห็นถึงประโยชน์ที่พวกเขาจะได้ หากรับเอาของเหล่านี้ไปใช้ เพื่อขยายประโยชน์ให้กับบริษัทในวงกว้างขึ้น
- ควรมีการจัดสอนวิธีการใช้งานให้กับผู้ใช้ทุกคน – เมื่อคุณลงทุนไปกับการพัฒนาแอปพลิเคชั่นแล้ว ก็ควรจะลงแรงกับการสอนให้ผู้ใช้คุ้นเคยกับสิ่งที่พัฒนาขึ้นมาด้วย เพราะแม้ระบบจะดีเลิศเพียงใด แต่คนใช้งานไม่ถูกก็เท่ากับว่าไม่มีความหมาย ฉะนั้นแล้ว เรื่องของการจัดสอนจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ควรทำไม่แพ้กัน
- หา Super user ให้เจอ และช่วยส่งเสริมเขา – ในบรรดา user ทั้งหลายแหล่ super user คือบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญการใช้งานแอปฯ หรือโซลูชั่นของคุณมากที่สุด บางครั้งพวกเขารู้ลึกจนเกือบถึงขั้นสามารถพัฒนาสิ่งที่คล้ายคลึงกันขึ้นมาได้เอง ฉะนั้นจงอย่าได้มองพวกเขาเป็นแค่เพียงคนรู้เยอะ แต่ให้ช่วยผลักดันให้เขาเหล่านั้นโดดเด่นขึ้นมา และใช้จุดนี้สร้างแรงบันดาลใจให้กับ user คนอื่นควบคู่กัน จะช่วยให้การทำงานในองค์กร ดูมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นโดยที่ไม่มีใครลงแรงฝ่ายเดียว
จุดหมายถัดไปของทีม Microsoft Digital Store
เมื่อทีมหลักที่อเมริกามีความคุ้นเคยกับการใช้งาน K2 จนประสิทธิภาพการทำงานเพิ่มขึ้น ก็ได้เวลาที่พวกเขาจะนำ workflow ดังกล่าว ไปใช้งานกับตลาดในส่วนภูมิภาคอื่น ๆ ของโลกอีกกว่า 240 แห่ง เพื่อช่วยปรับกระบวนการทำงานให้ดีมากขึ้นไปอีก รวมถึงนำไปใช้ประสานงานร่วมกันกับแผนกอื่น ๆ ภายใน Microsoft ซึ่งนั่นหมายถึงทีมงานอีกกว่า 200 ชีวิตที่จะได้มีโอกาสให้ K2 เข้าไปมีส่วนในการแก้ไขกระบวนการที่สับสน อย่างที่ทีม Digital Store ได้เคยเปลี่ยนจากข้อมูล Excel ให้เป็นระบบ Automation
![Microsoft Digital Store](https://k2appstore.com/wp-content/uploads/2020/05/microsoft-logo-cover-1024x538.png)
จากบทสัมภาษณ์ เราจะเห็นได้ว่าความยุ่งยากในการบริหารจัดการข้อมูลภายในมีกันอยู่ในทุกบริษัท ไม่เว้นแม้แต่บริษัทระดับ Microsoft ก็พบเจอกับปัญหาเหล่านี้เช่นกัน ซึ่งนั่นกระทบโดยตรงกับประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานในบริษัท และอาจส่งผลกับตัวเลขบางอย่างเช่นยอดขาย หรือกำไร ที่ควรดีกว่านี้หากมีการจัดเก็บข้อมูลอย่างเป็นระบบ ควบคู่ไปกับมีเครื่องมือที่ดีที่จะช่วยทุ่นแรงในการทำงานที่ซ้ำซากทั้งหลาย
ทั้งหมดนี้จึงเป็นที่มาให้ทีม Digital Store เลือกที่จะใช้งาน K2 เข้ามาขับเคลื่อนระบบทั้งหมด ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็ชัดเจนจนพวกเขามีแผนที่จะนำไปใช้กับแผนกอื่น ๆ ในบริษัทอีกด้วย เป็นเครื่องการันตีถึงประสิทธิภาพของตัวแอปพลิเคชั่นได้เป็นอย่างดี แล้วคุณล่ะอยากให้ทีมงาน K2 เข้าไปให้คำปรึกษาสำหรับปัญหาที่กำลังพบเจออยู่หรือไม่…. เพียงกรอกฟอร์มด้านล่าง แล้วเราจะรีบติดต่อกลับไปอย่างเร็วที่สุด