ปัจจุบันการแข่งขันระหว่างธุรกิจ Retail ถือว่าดุเดือดและฟาดฟันกันอย่างต่อเนื่อง เรียกว่าในสินค้าบางประเภท อาจต้องมีการวัดยอดขายในระยะเวลาสั้นลง หากเทียบกับชนิดสินค้าอย่างอื่น จากที่เคยเป็นไตรมาส ก็อาจเป็นเดือน หรือเป็นสัปดาห์กันไป เพื่อที่จะสามารถปรับกลยุทธให้ทันท่วงทีและเหนือกว่าคู่แข่งให้ได้ ด้วยเหตุเหล่านี้ จึงเป็นที่มาของ Solution ที่เรากำลังจะนำเสนอ โดยมันมีชื่อเรียกว่า Sales Force Automation ซึ่งในครั้งนี้เราได้รับเกียรติจากผู้บริหารของพาร์ทเนอร์คนสำคัญของ K2 มาร่วมแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับตัวผลิตภัณฑ์ดังกล่าว รวมถึงวิเคราะห์สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ว่าธุรกิจ Retail ควรปรับตัวในทิศทางไหน เพื่อที่จะคงอยู่ได้ในสภาวะไม่ปกติอย่างตอนนี้

ทีมงาน: อยากให้แนะนำตัว และพูดถึงงานที่ทำในปัจจุบันหน่อยครับ
Metro System: สวัสดีครับผมอาร์ตนะครับ ชื่อเต็มคือพงศ์พีระ ชวาลาธวัช ทำงานเป็น Vice President อยู่ที่ Metro System ในกลุ่มงาน SIG Metro Triple S ซึ่งจะจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์สำหรับธุรกิจที่ช่วยลดภาระงานลง และลดข้อผิดพลาดที่จะเกิดขึ้น เพื่อนำไปพัฒนาประสิทธิภาพของคนให้เพิ่มมากขึ้น

ปัจจุบันทางกลุ่มงานที่ผมดูแลกำลังจะโฟกัสเป็นพิเศษที่ K2 เพราะเป็นซอฟต์แวร์ที่มีส่วนช่วยอย่างมากในสถานการณ์หลาย ๆ อย่าง ตัวอย่างเช่นสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ทางทีมงานก็ได้นำ K2 ไปช่วยทำ Automate Process เพื่อช่วยให้การทำงานของธุรกิจมีความคล่องตัวมากขึ้น

ทีมงาน: ถ้าพูดถึงเรื่อง COVID-19 คุณอาร์ตพอจะคาดเดาได้ไหมครับว่ามันจะกินเวลายาวนานเท่าไร และจะสิ้นสุดลงในเดือนไหน
Metro System: ส่วนตัวคิดว่า COVID-19 อาจจะอยู่กับเราไม่ยาวเท่ากับผลกระทบจากเศรษฐกิจซบเซา ด้วยความที่ผมมักจะแวะเวียนเข้าไปที่ตลาดหลักทรัพย์บ่อย ๆ และได้มีโอกาสตรวจสอบมูลค่าทางเศรษฐกิจ และข้อมูลเชิงลึกของตลาดหลักทรัพย์ จึงอยากจะขอตอบคำถามข้อนี้ในสองประเด็นครับ

ประเด็นแรกคือเรื่องเศรษฐกิจ ที่ผมคาดว่าแผลในใจของคนทำธุรกิจอาจจะยาวนาน เพราะเมื่อสถานการณ์ดำดิ่งไปสู่จุดต่ำสุดแล้ว การฟื้นตัวอาจจะใช้เวลานานกว่าทุกอย่างจะปกติเหมือนก่อนมีเหตุการณ์ เพราะการสูญเสียมันทำได้ง่ายกว่าเริ่มต้นใหม่อยู่แล้ว ฉะนั้นผมเชื่อว่าสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจจะค่อย ๆ ฟื้นตัวอย่างช้า ๆ ซึ่งผมก็ไม่สามารถตอบได้ว่าจะกินเวลายาวนานขนาดไหน และไม่น่าจะมีใครตอบแบบฟันธงได้ 100% เช่นกัน

ทีมงาน: อย่างที่ทราบกันดีว่า ทุกธุรกิจตอนนี้ได้รับผลกระทบด้านเศรษฐกิจกันหมด ขึ้นอยู่กับว่าจะกระทบมาก หรือน้อย แต่ด้วยความที่ทาง Metro System มีความเชี่ยวชาญด้านธุรกิจ Retail เลยอยากให้คุณอาร์ตให้ความเห็นเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้นกับกลุ่มธุรกิจนี้ หน่อยครับ ว่ามันกระทบมากน้อยเพียงใด และเจ้าของธุรกิจประเภทนี้ ควรจะต้องมีการปรับตัวอย่างไร
Metro System: ผมมองว่ากลุ่มธุรกิจ Retail ที่ได้รับผลกระทบน่าจะขึ้นอยู่กับประเภทของสินค้าที่จัดจำหน่าย ตัวอย่างเช่น ปัจจุบันผมดูแลธุรกิจเจ้าหนึ่งอยู่ เป็นบริษัทจำหน่ายอาหาร ซึ่งปัจจุบันได้รับผลกระทบ แต่ไม่ได้เป็นผลกระทบในทางตรงเกี่ยวกับตัวสินค้า แต่กลับเป็นผลกระทบเรื่องช่องทางในการจัดจำหน่ายเสียมากกว่า เพราะลูกค้าคนนั้นแจ้งผมว่าถ้าช่องทางในการจัดจำหน่ายสามารถกลับมาเปิดได้ปกติ สินค้าของเขาก็จะยังขายได้อยู่ และไม่น่าจะได้รับผลกระทบในทางตรงจากเหตุการณ์ความไม่ปกติในปัจจุบัน

ส่วนเรื่องการปรับตัวถ้าจะให้ผมพูดตอนนี้เลยก็น่าจะเป็นเรื่องของการจัดจำหน่ายนี่แหละครับ ที่ควรจะต้องทำเป็นอย่างแรก มีตัวอย่างบริษัทหนึ่งซึ่งเป็นการปรับตัวที่ค่อนข้างดี และผมเห็นว่าเป็นกลยุทธในการเปิดช่องทางการจัดจำหน่ายใหม่ที่น่าสนใจ นั่นก็คือบริษัท King Power

อย่างที่พวกเราทราบกันดี หากเราอยากจะซื้อสินค้าจากบริษัท King Power ถ้าไม่ไปที่ตัวห้างตรงซอยรางน้ำ ก็ต้องมีการเดินทางออกนอกประเทศ ซึ่งสถานการณ์ปัจจุบันช่องทางทั้งสองอย่างถูกระงับการดำเนินการอยู่ ฉะนั้นเพื่อให้ธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้ ทาง King Power จึงปรับให้เซลล์ทุกคนต้องเป็น Online Marketer ให้ได้ และนำสินค้าของทางบริษัทขึ้นมาจำหน่ายในช่องทางออนไลน์มากขึ้นซึ่งปัจจุบันมีอยู่มากมายไม่เว้นแม้แต่ในเว็บไซต์ หรือโซเชียลมีเดีย เป็นการยืนยันว่าช่องทางการจัดจำหน่ายเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ สำหรับธุรกิจ Retail

Sales Force Automation จะสามารถช่วยธุรกิจ Retail ได้อย่างไร?

ทีมงาน: เห็นว่าตอนนี้ทาง Metro System มี Solution ใหม่ ด้าน Sales Force Automation รบกวนคุณอาร์ตช่วยอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้หน่อยครับ และมันจะสามารถช่วยลูกค้าได้อย่างไรในสถานการณ์แบบนี้
Metro System: ปกติแล้วบริษัทที่ทำธุรกิจ Retail มักจะส่งเซลล์วิ่งไปหาร้านตัวแทนจำหน่ายอยู่เป็นประจำ เพื่อสอบถามสารทุกข์สุขดิบ ทั่วไปเราเรียกกลยุทธแบบนี้ว่า Sales on the move ซึ่งโดยทั่วไปข้อมูลที่เราได้มา ถ้าไม่เข้าไปนั่งคุยคลุกคลีกับลูกค้าจริงจัง ก็คงจะมีแค่เพียงยอดขายเท่านั้น แต่ถ้าเรามี Heat map ที่นำยอดขายของแต่ละตัวแทนมาพล็อตบนแผนที่ให้เราเห็นอย่างชัดเจน ว่าเส้นทางที่เราวางแผนส่งเซลล์ออกไปนั้นได้ผลลัพธ์กลับมาอย่างไร จะช่วยให้เราสามารถปรับเส้นทาง หรือกลยุทธได้ละเอียดมากขึ้น

โดยข้อมูลทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นสถานที่, เวลาเข้าพบ หรือยอดขายที่ลูกค้าสั่ง จะถูกอัปโหลดขึ้นมาแบบเรียลไทม์ ทำให้เซลล์ไม่ต้องกลับมานั่งกรอกรายงานอีกรอบซ้ำซ้อน เท่ากับว่ากระบวนการวางแผนต่าง ๆ สามารถดำเนินการต่อไปได้แบบต่อเนื่อง ควบคู่กันไปขณะที่เซลล์กำลังวิ่งออกไปเยี่ยมลูกค้าอยู่ ไม่ต้องรอหมดเดือน หรือหมดไตรมาส ทำให้ทีมขายสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ปริมาณงานลดน้อยลง ตรงตามคอนเซ็ปต์หลักของซอฟต์แวร์จากทาง K2 ซึ่งจริง ๆ ถ้านอกเหนือจากเรื่องการขาย ตัวซอฟต์แวร์ยังสามารถปรับเปลี่ยนให้ตรวจสอบในเรื่องที่เกี่ยวข้องได้อีกด้วย ตัวอย่างเช่น ตรวจสอบว่าลูกค้านำตู้แช่สินค้าของเราไปแช่สินค้าแบรนด์อื่นหรือไม่, วางเป้าหมายให้กับเซลล์เป็นรายกลุ่มรายบุคคลได้เช่นกัน

ทีมงาน: นอกเหนือจากประโยชน์ทางตรงที่ส่งผลกับกระบวนการขายที่เราได้พูดถึงกันไปแล้ว คุณอาร์ตคิดว่า Sales Force Automation จะมีประโยชน์ในด้านอื่นเพิ่มเติมอีกไหมครับ
Metro System: ถ้าจะเอาให้เข้ากับสถานการณ์ตอนนี้ ผมเชื่อว่าข้อมูลที่เราได้จาก Sales Force Automation ยังสามารถนำไปวิเคราะห์ในมุมของรางวัลตอบแทนให้กับพนักงานขายได้อีกเช่นกัน เพราะในภาวะแบบนี้ทุกคนน่าจะต้องการกำลังใจ การที่พวกเขาเหล่านั้นทำงานหนัก และได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมถูกต้อง เป็นเรื่องที่ควรเกิดขึ้นเพื่อสร้างขวัญกำลังใจให้มีแรงทำงานต่อไป

ทีมงาน: แล้วนอกเหนือจากโซลูชั่นด้าน Sales Force Automation ทางทีม Metro System มีบริการด้านอื่นอีกไหมที่เกี่ยวข้องกับ K2
Metro System: ถ้าเริ่มจากที่ลูกค้าแสดงความสนใจซอฟต์แวร์ของทาง K2 ทีม Metro System จะเริ่มจากการเข้าไปพูดคุยกับลูกค้า ว่าเราจะสามารถใช้ K2 เข้าไปปรับปรุงระบบการทำงานที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้นได้อย่างไร หรือทำหน้าที่เป็น Business Efficiency Consultation ให้กับลูกค้าก่อน

หลังจากนั้นเราจะทำ Proof of concept ว่า Solution ที่ทาง Metro System คิดขึ้นมาโดยการใช้ซอฟต์แวร์ของ K2 จะสามารถทำได้จริงหรือไม่ และได้ประสิทธิผลอย่างไรบ้าง หากสำเร็จทางทีมงานก็เริ่มทำการ Implement สิ่งที่คิดไว้ให้กับทางลูกค้า ซึ่ง Metro System จะคอยซัพพอร์ตอยู่ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้น ไปจนหลังการขาย เพื่อส่งลูกค้าให้ไปถึงฝั่งตามที่ตกลงกันไว้

จากบทสัมภาษณ์ทั้งหมด หากคุณกำลังธุรกิจ Retail อยู่ แล้วมีปัญหาที่ช่องทางการจัดจำหน่าย จากเหตุการณ์ไม่ปกติในปัจจุบัน แนวทางที่ควรจะต้องปฏิบัติในตอนนี้คือปรับกลยุทธหาช่องทางใหม่ ๆ ให้ตอบโจทย์สถานการณ์มากที่สุด หากคนอยู่บ้าน ก็หาทางเอาสินค้าไปเสนอให้ถึงที่ จึงจะช่วยให้ธุรกิจเราสามารถรันต่อไปได้และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้น เพื่อที่จะได้พร้อมเดินต่อในวันที่ทุกอย่างคลี่คลาย

และถ้าหากจะให้ดียิ่งขึ้น ธุรกิจของคุณควรที่จะมีเครื่องมือที่ช่วยปรับการทำงานต่าง ๆ ภายในให้มีประสิทธิภาพ ด้วยการลดขั้นตอนซ้ำซ้อนที่ไม่จำเป็นลง เพิ่มความสร้างสรรค์เข้าไป ซึ่ง Sales Force Automation จาก K2 สามารถช่วยเหลือและตอบความต้องการเหล่านี้ได้ไม่ยาก

Business benefit ของ Sales Force Automation

• ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงตลาดได้เร็วขึ้น ก้าวผ่านขั้นตอนที่ไม่จำเป็นแบบสมัยก่อน
  • ลดค่าใช้จ่ายในการนำข้อมูลดิบเข้าสู่ระบบหลังบ้าน
  • ข้อมูลถูกจัดเก็บอย่างเป็นระเบียบ ง่ายต่อการเรียกดู ทำให้สามารถวางแผนและกำหนดเส้นทางได้อย่างชัดเจน
• ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการสินค้าคงคลัง รวมถึงกำหนดเป้าหมายการทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• รองรับการใช้งานได้บนอุปกรณ์ทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน หรือแท็บเล็ต
• เชื่อมต่อกับระบบหลังบ้านได้ทันที ทำให้สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา โดยไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ

หากสนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sales Force Automation สามารถอ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
หรือสามารถกรอกฟอร์มด้านล่าง เพื่อขอรับคำปรึกษาจากทีมงานได้เลยครับ