ในยุคของ Digital Disruption งานด้านทรัพยากรบุคคล (Human Resource) เป็นอีกฟังก์ชั่นงานหนึ่งที่จำเป็นต้องได้รับการเสริมศักยภาพด้วยเทคโนโลยี ซึ่งหมายถึงการมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพในการบริหารผลงาน การประเมินผลพนักงาน การสร้างกำลังใจและเป้าหมายในการทำงานเกิดประโยชน์ทั่วทั้งองค์กรทั้งผู้บริหาร ตัวพนักงาน และฝ่ายงานด้านทรัพยากรบุคคลให้สามารถวาง HR Strategy ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
คุณชุติมา สีบำรุงสาสน์ , ผู้อำนวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคล บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ในยุคของ Digital Disruption จากงานมากมายที่ HR ต้องทำ สิ่งแรกที่ต้องทำคือการจัดลำดับความสำคัญ (Prioritize) เพื่อตอบโจทย์ในสิ่งที่องค์กรต้องการได้ จากการสำรวจล่าสุดพบว่า Workplace Trends ในการทำงานเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในอนาคต มี 5 หัวข้อใหญ่ ๆ คือ
1. Talent Shortage – ปัญหาเรื่อง Digital Talent ที่จะขาดหายไปจากการไม่สามารถสร้างคนได้ทันความต้องการ ปัจจุบันนั้นจะไม่ใช่การซื้ออีกต่อไป แต่เป็นการสร้างคนให้มีขีดความสามารถในการแข่งขันตามความต้องการของธุรกิจ HR จะต้องมีการ re-skill หรือ up-skill ของพนักงานให้ทันกับสิ่งที่องค์กรต้องการ เพราะมีเพียง 1 ใน 3 ของทักษะที่ใช้ในการทำงานปัจจุบันที่สามารถใช้ได้ในอนาคต เพราะงานที่เหมือนเดิมจะเปลี่ยนแปลงไป ขีดความสามารถที่เปลี่ยนแปลงนั้น HR คือส่วนสำคัญกำหนดบทบาทของคนในองค์กรจะสนับสนุนให้องค์กรหรือธุรกิจนั้นประสบความสำเร็จได้อย่างไร
2. Rise of AI and Work Automation – การที่เทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนรูปแบบการทำงานจากเดิม พนักงานต้องเลือกใช้และปรับตัว มองเทคโนโลยีให้กลายเป็นสิ่งที่มาสนับสนุนความรู้ความสามารถของในการปฏบัติงาน
3. Diversity and Inclusion are Essential – ความหลากหลายต่าง ๆ ทั้งด้านความเชื่อ ด้านความคิด ด้านธุรกิจที่มีมากขึ้น ก่อให้เกิดความซับซ้อนในการทำงาน จึงทำให้ความหลากหลายกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการวางกลยุทธ์ทางธุรกิจในปัจจุบัน เราจะสามารถนำความหลากหลายนั้นมาสร้าง competitive advantage ให้กับองค์กรหรือธุรกิจได้อย่างไร
ปัญหาของ HR คือ Business บอกว่าคนไม่พอ คนไม่ใช่ ไม่ทันธุรกิจ …ทำไมคู่แข่งคนเค้าเก่งกว่าเราเสมอ?
4. Purpose and Culture as Currency – การกำหนดวัฒนธรรมองค์กรให้เป็นองค์กรสำหรับอนาคต การกำหนดตัวตนขององค์กรไปสู่มาตรฐานใหม่ โดยการใช้ Vision หรือ Mission เป็นตัวขับเคลื่อนวัฒนธรรมองค์กร
5. Fluid and Flexible – ในการทำงานองค์กรจะเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทั้งเรื่องกระบวนการทำงาน การทำงานเป็นทีม รูปแบบการบริหาร จะเปลี่ยนจากเดิมไปเป็นการทำงานเป็นทีมหรือการบริหารที่เป็นพลวัตอย่างชัดเจน
อีกเรื่องที่สำคัญที่ HR ต้องคิดถึงคือเรื่องบุคลากรที่เปลี่ยนแปลงไป ทำอย่างไรที่เราจะสร้างกลยุทธ์ของเรา สร้าง policy สร้าง process ของเราให้สามารถดึงดูดให้คนเข้ามาอยู่กับเราได้ คนเดี๋ยวนี้เปลี่ยนงานง่าย ทำยังไงให้คนไม่ได้คิดว่า Money in everything แต่มองเห็นคุณค่าของการเป็นพนักงานขององค์กรเรา ต้องเริ่มต้นตั้งแต่การ early engage คนเลย ทำอย่างไรจะ secure คน จะต่อยอดสร้าง Future leader สร้าง Future generation ได้
ใครมาจากนิคมอุตสาหกรรมไหมคะ เคยคุยกับนิคมอุตสาหกรรมประมาณว่าเดินแลกโรงงานกันเลยใช่ไหมคะ เพิ่ม 200 บาทนี่ย้ายโรงงานแล้ว!
ในองค์กรจะมี Generation ที่มีความหลากหลาย ตอนนี้เราอยู่ในยุคที่ 5 genจะทำงานด้วยกัน เราเตรียมตัวแล้วหรือยัง ถึงสิ่งที่แต่ละ gen ก่อให้เกิดผลกระทบกับทั้งองค์กร ทั้งเรื่องของ Knowledge Base , Inside base, Customer Relationship ที่ติดอยู่กับแต่ละ gen เรามีการรวบรวมสิ่งเหล่านี้มาเป็น Company Assets แล้วหรือยัง หรือยังเป็น Individual Assets ที่ยังซ่อนอยู่ในคอมพิวเตอร์ของแต่ละคนอยู่
จะเห็นได้ว่าการเข้ามาของ Technology ส่งผลกระทบโดยตรงกับทุกส่วนในองค์กร หน้าที่ของ HR ต้องเป็นคนที่เข้าใจถึงความเปลี่ยนแปลงนี้ก่อน และต้องเข้าใจว่าจะต้องทำอะไรในยุค Digital Transformation นอกจากนี้ยังต้องเป็นนักเล่าเรื่องราวในองค์กรให้ Key Leader เข้าใจและพาคนในองค์กรไปสู่อนาคตที่องค์กรอยากเป็นได้ โดยอาศัย Technology เป็นตัวช่วย
ขอส่งท้ายด้วยภาพบรรยากาศในงานครั้งนี้ครับ สำหรับท่านใดที่สนใจงานสัมมนาที่เป็นประโยชน์แบบนี้แล้วอยากรับทราบข้อมูลก่อน สามารถใส่รายละเอียดตามด้านล่างได้เลยครับ ส่วนครั้งหน้าเราจะมาคุยกันถึงแนวทางในการปรับตัวของ HR กันต่อครับ 🙂